น่ารักดอทคอม

Wednesday, April 16, 2014

ขั้นตอนหารายได้จากเว็บไซต์สำเร็จรูป


Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น
โฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ
แล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นำ Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณาของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการค้นหา
รายได้จาก Google AdSense จะเกิดตอนไหน
จะมีอยู่ 2 กรณีครับคือ
• จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)
เมื่อคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คลิกที่โฆษณาของ Google AdSense ซึ่งแต่ละคลิกจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords จ่ายให้ Google มากน้อยเท่าไร ถ้าจ่ายให้มากคุณก็จะได้มากด้วยเช่นกัน
• จ่ายเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)
อันนี้จะจ่ายให้คุณเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม คุณจะไม่ได้รายได้จากการคลิก
นอกจากโฆษณาต่าง ๆ แล้ว การแนะนำ บริการต่าง ๆ ของ Gogle เมื่อมีคนใช้บริการ คุณก็จะมีรายได้จากการแนะนำนั้นด้วยซึ่งมีอยู่ดังต่อไปนี้

Google AdSense • ค่าตอบแทน $5 หากมีผู้ที่สมัคร Google Adsense ผ่าน Referral ของคุณและได้ $5 ภายใน 180 วัน
• ค่าตอบแทน $250 หากภายใน 180 วันถ้าผู้ที่สมัคร Google Adsense ผ่าน Referral ของคุณสามารถทำได้ $100 โดยผู้ที่สมัครต่อจากคุณต้องกรอก PIN ก่อนคุณถึงจะได้รับค่าตอบแทน
• ค่าตอบแทน $2,000 หากคุณมี 25 คนที่สมัครต่อจากคุณภายในระยะเวลา 180 วัน ที่สามารถทำได้มากกว่า $100 คุณจะได้รับโบนัสเพิ่มทันที (โบนัสจะได้รับ 1 ครั้ง/ปี)

Google AdWords • ค่าตอบแทน $5 หากมีผู้ที่สนในลงโฆษณากับ Google Adwords ผ่าน Referred ของคุณและชำระค่าบริการ $5
• ค่าตอบแทน $40 หากผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Adwords ใช้บริการโฆษณาและชำระค่าบริการ $100 ภายใน 90 วัน
• ค่าตอบแทน $600 หากมีผู้สมัครผ่านคุณ 25 คนที่ลงโฆษณากับ Google Adwords โดยผู้ที่โฆษณาใครก็ตามที่ชำระค่าบริการมากกว่า $100 ภายใน 90 วัน คุณจะได้รับโบนัสเพิ่มทันที (โบนัสจะได้รับ 1 ครั้ง/ปี


Firefox คุณจะได้ 1$ เมื่อมีคนดาวน์โหลด Firefox จากเว็บของคุณ แต่ผู้ดาวน์โหลดนั้น ๆ ต้องไม่เคยติดตั้ง Firefox มาก่อน (แต่อย่างไรผมก็ได้แค่ 10 เซ็นต์ ทำไมเป็นแบบนั้น ???)

AdSense for searchคุณจะได้เงินมีคนมาใช้ Googel Search Box จากเว็บของคุณ แล้วคลิกโฆษณาผลลัพท์ที่ได้จากการ Search นั้น ๆ (เว็บไซต์ที่ อยู่ในตำแหน่งสปอนเซอร์ จะอยู่ด้านบน เป็นกรอบที่เด่นชัด) ค่าตอบแทนจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยุ่กับ Keyword ที่ผู้ใช้ค้นหา ซึ่งจะไม่เท่ากัน

Google Apps 
Google Apps คือระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งในระบบจะมีบริการต่างๆที่สมาชิกในกลุ่มใช้ได้ เช่น อีเมลล์ ระบบการการสนทนาผ่าน Instant Massaging ระบบปฎิทิน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช่ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างภายในสมาชิก ระบบทั้งหมด Google เป็นผู้ให้บริการ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์และค่าซอฟท์แวร์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา

คุณจะได้รับ $5 จากที่มีผู้สนใจคลิกโฆษณา Google Apps ผ่านเว็บไซด์ของคุณและได้ทำการลงทะเบียนอย่างเสร็จสมบูณณ์ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่สนใจไม่ได้สมัคร Google Apps ทันทีก็ตามระบบจะเก็บขอมูลการคลิกโฆษณา Google Apps จากเว็บไซด์ของคุณต่ออีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายถึงเขาอาจจะสมัครหลังจากนั้นก็ได้ แล้วคุณก็ยังได้รับรายได้อยู่

Google Checkout 
Google Checkout คือระบบการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยระบบการรับชำระของ Google Checkout คุณสามารถทำรายการสั่งซื้อและจ่ายค่าสินค้าตลอดจนตรวจสอบรายการ การสั่งซื้อหรือการจ่ายค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซด์

คุณจะได้รับ $1 ถ้ามีผู้ที่สมัครบัญชี Google Checkout ผ่านการแนะนำจากเว็บไซด์ของคุณ และได้ทำรายการสั่งซื้อสินค้าภายใน 90 วันและรายการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จนการชำระค่าสินค้าเสร็จสิ้น โดยมูลค่าของสินค้าต้องมีมูลค่า $10 ขึ้นไป ก่อนที่รวมภาษีและค่าขนส่ง ภายใน 7 วัน
ทีนี้ก็รู้จัก Google AdSense กันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง อยากทำกันบ้างหรือเปล่า ??
                                     ขั้นตอนหารายได้

                                     Step 1 : การสมัคร Gmail
                                     Step 2 : การสมัคร Blogger
                                     Step 3 : การสร้างเว็ป Blogger
                                     Step 4 : การสมัคร Adsense
                                     Step 5 : นำโฆษณามาจาก Adsense
                                     Step 6 : การติดโฆษณาลง Blog
                                     Step 8 : เช็ครายได้ / รับเงิน
                                              ที่มาของรายได้

ที่มาของรายได้

ที่มาของรายได้

มีวิธีคำนวณรายได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.ผลตอบแทนจาก โฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์
2.ผลตอบแทนจาก การค้นหาเว็บไซต์
3.ผลตอบแทนจาก การแนะนำ

1.ผลตอบแทนจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ (AdSense for Content)
ผลตอบแทนจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นผลตอบแทนจากโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องและกลมกลืนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับวิธีการหาเงินทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการทำงานหาเงินทางอินเทอร์เน็ตก็คือ เว็บไซต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรโฆษณาก็เป็นโฆษณาเหมือนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ นั่นเอง

วิธีคำนวณผลตอบแทน(1.) จ่ายผลตอบแทนเมื่อคลิก (Pay Per Click - PPC)
ผลตอบแทนจากการคลิกโฆษณา เมื่อผู้เยี่ยมเว็บไซต์ได้คลิกที่โฆษณาของ Google ทำให้เว็บไซต์ได้รับผลตอบแทนทันทีเมื่อคลิก โดยแต่ละโฆษณาที่คลิกจะได้รับผลตอบแทนไม่แน่นอน ผลตอบแทนมาก หรือน้อย นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Adwords ว่าลงโฆษณาได้ในราคาที่สูง หรือต่ำ ถ้าหากลงโฆษณาในราคาสูงไว้ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้าได้ลงโฆษณาในราคาต่ำ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็ย่อมได้น้อยด้วยเช่นกัน นั่นเอง

(2.) จ่ายผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression - CPM)
ผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา ทุกครั้งเมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีโฆษณาของ Google ก็จะเกิดรายได้จากการแสดงโฆษณา โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่า จะนำมาคำนวณรายได้ก็ต่อเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง แต่จะต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม หรือ ที่เรียกว่า Cost Per Thousand Impression (CPM)

สรุปรายได้จากการแสดงโฆษณานี้จะโดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1.1) แสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง
(1.2) ต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย ถ้าหากไม่มีผู้คลิกโฆษณาเลย รายได้นี้ก็ยังไม่คิดให้จนกว่าจะมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาด้วยเท่านั้น

2. ผลตอบแทนจาก.. การค้นหาเว็บไซต์ (AdSense for Search)
ค้นหาแล้วจะพบรายชื่อเว็บไซต์โฆษณาอยู่ในตำแหน่งสปอนเซอร์ ซึ่งอยู่ด้านบน และด้านล่างของหน้าผลลัพธ์ที่ได้ค้นหา ถ้าผู้เข้าชมคลิกโฆษณาในตำแหน่งดังกล่าว เว็บไซต์เราก็จะได้รับรายได้ มีตัวอย่างกล่องค้นหาเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้จริง โดยผลตอบแทนก็คิดคำนวณเหมือนกับ ข้อ 1.1 และ ข้อ 1.2

3. รายได้ของโฆษณาจากการแนะนำบริการ (Referrals)
นอกจากนี้ Google AdSense ยังให้โอกาสการสร้างรายได้จากโฆษณา แบบแนะนำบริการต่างๆ ของ Google อีกด้วย ก็คือ เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาแนะนำบริการ และได้ใช้บริการนั้นๆ คุณก็ได้รับรายได้อีกด้วย ได้แก่

(1.) แนะนำสมัคร Google AdSense
คุณจะได้รับรายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก Google AdSense โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้เกิน $5 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $5 ด้วยเช่นกัน และ ถ้าผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้ครบ $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $250 อีก ถ้าผู้สมัครคนนั้น ภายในช่วงระยะเวลา 180วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านจากการแนะนำของคุณ 25 คน แล้วทำได้เกิน $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัส $2,000 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึงถ้าเราหาได้ 50 คนแล้ว 50 คนทำได้หมดเราก็ได้ bonus แค่ 25คนแรกนั้น)

(2.) แนะนำสมัคร Google AdWords
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อใช้บริการ Google AdWords โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google AdWords $5 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะรับรายได้ $5 และ ผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับ $40 ถ้าภายในช่วงระยะเวลา 180 วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านการแนะนำของคุณ 20 คน ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัสจาก Google จำนวน $600 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึง ถ้าเราหาได้ 40 คน แล้วใช้บริการของ Google Adwords ได้ตามเป้าทุกคน คุณจะรับได้โบนัส 20 คนเท่านั้น)

(3.) Firefox : ดาวน์โหลด ฟรี!
โปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ตได้เร็วกว่า Internet Explorer และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีอีกด้วย
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้ โดยจะต้องเป็นการดาวน์โหลดครั้งแรก ก็คือไม่เคยดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้มาก่อน ซึ่งทาง Google ก็จะมอบรายได้จากการแนะนำของคุณ จำนวน $1 ทันที

(4.) Google Apps
Google Apps คือระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งในระบบจะมีบริการต่างๆที่สมาชิกในกลุ่มใช้ได้ เช่น อีเมลล์ ระบบการการสนทนาผ่าน Instant Massaging ระบบปฎิทิน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช่ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างภายในสมาชิก ระบบทั้งหมด Google เป็นผู้ให้บริการ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์และค่าซอฟท์แวร์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา

คุณจะได้รับ $5 จากที่มีผู้สนใจคลิกโฆษณา Google Apps ผ่านเว็บไซด์ของคุณและได้ทำการลงทะเบียนอย่างเสร็จสมบูณณ์ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่สนใจไม่ได้สมัคร Google Apps ทันทีก็ตามระบบจะเก็บขอมูลการคลิกโฆษณา Google Apps จากเว็บไซด์ของคุณต่ออีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายถึงเขาอาจจะสมัครหลังจากนั้นก็ได้ แล้วคุณก็ยังได้รับรายได้อยู่

(5.) Google Checkout
Google Checkout คือระบบการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยระบบการรับชำระของ Google Checkout คุณสามารถทำรายการสั่งซื้อและจ่ายค่าสินค้าตลอดจนตรวจสอบรายการ การสั่งซื้อหรือการจ่ายค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซด์

คุณจะได้รับ $1 ถ้ามีผู้ที่สมัครบัญชี Google Checkout ผ่านการแนะนำจากเว็บไซด์ของคุณ และได้ทำรายการสั่งซื้อสินค้าภายใน 90 วันและรายการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จนการชำระค่าสินค้าเสร็จสิ้น โดยมูลค่าของสินค้าต้องมีมูลค่า $10 ขึ้นไป ก่อนที่รวมภาษีและค่าขนส่ง ภายใน 7 วัน

การตรวจเช็ครายได้ / รับเงิน

การตรวจเช็ครายได้ / รับเงิน

การตรวจเช็ครายได้จะทำให้รู้ว่าแต่ละวันคุณทำเงินได้เท่าไรบ้าง

เมื่อเรา Login เข้า Google AdSense จะเห็นยอดเงินประจำวันของคุณ
Today's Earnings : $9999.00
 คุณสามารถเลือกดูได้จาก View ว่า

- วันนี้คุณได้เท่าไหร่

- เมื่อว่านนี้ ได้เท่าไหร่

- 7 วันล่าสุดได้เท่าไหร่

- เดือนนี้ ได้เท่าไหร่

- เดือนล่าสุด ได้เท่าไหร่

- รวมทั้งหมดได้เท่าไหร่

Google จะจ่ายเงินให้คุณก็ต่อเมื่อคุณมีรายได้ครบ 100$ เมื่อคุณมีรายได้ 50$ ทาง Google จะส่ง PIN มาให้คุณ ทางจดหมาย ตามที่อยู่ที่ได้สมัครไว้ ดังนั้นให้ตรวจเช็คที่อยู่ของคุณให้ถูกต้องนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ส่งมา ระยะเวลาในการจัดส่งอยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่ของผมรอประมาณ 18 วัน

การกรอกข้อมูล PIN

1.ให้ Login เข้า Google AdSense จากนั้นจะเห็นข้อความ You payments are currently on hold.
Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details

2.ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN

3.ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PIN เสร็จสิ้นขั้นตอนการยืนยันการมีตัวตนเพื่อรับเงินครับ

4.จากนั้นเมื่อเราทำยอดถึง 100$ ทาง Google จะส่งเช็คมาให้รอสัก 1-3 สัปดาห์มาถึงเราให้คุณนำเช็คนั้น ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ถ้าคุณเลือกรับเงินเป็น Thai Baht คุณจะได้รับเช็คเร็วมากประมาณวันที่ 7 ก็จะได้รับเช็คแล้ว เช็คที่ส่งมาให้จะออกโดย ซิตี้แบงค์ สีลม นี่เองครับ

บทความ : คุณชอบเลข 8 เหมือนผมไหมคับ ? ผมเป็นคนนึงที่ชอบเลข 8 คับ เพราะเวลามองแนวนอนก็จะเหมือนเครื่องหมาย Infinity ก็คือ ไม่มีวันสิ้นสุด แต่ถ้ามองแนวนอนก็จะเหมือนกับ ตุ๊กตาล้มลุกของญี่ปุ่น ซึ่งมีความหมายว่า ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะยังลุกขึ้นมาเหมือนเดิม.

การโปรโมท Blogger

Step 7 : การโปรโมท Blogger

การโปรโมทเว็บบล็อกโดยการ แนะนำเว็บไซต์/บล็อกของเรากับ Search Engine นั่นเอง

แหล่งรวม Search Engine , Submit URL กับ Search Engine ชื่อดังhttp://www.google.com/addurl.html

http://search.yahoo.com/info/submit.html

http://search.msn.co.in/docs/submit.aspx

http://www.exactseek.com/add.html

http://www.look.com/remote/submiturl.asp

http://www.dmoz.org/add.html

http://www.altavista.com/addurl/default

http://www.alexa.com/support/get_archive.html

http://www.aesop.com/cgi-bin/aesopadd.cgi

http://www.exactseek.com/add.html

http://theyellowpages.com/ysubmit.htm

http://www.goguides.org/info/addurl.htm

http://www.netsearch.org/addurl.html

http://www.entireweb.com/addurl?page=basic

- รวม Search Engine กว่า 350 เว็บ >>> http://seo-promote.blogspot.com/

- แหล่งโปรโมทเว็บในไทย >>>http://www.bcoms.net/promoteweb/addweb.asp

- แหล่งโปรโมทเว็บต่างประเทศ >>>http://www.bcoms.net/eng_tipcomputer/addurl.asp

- เข้าไปโพสต์ข้อความตามเว็บบอร์ดต่างๆ พร้อมทิ้งที่อยู่ของเว็บไว้ด้วย (กลยุทธ์เอาเหยื่อไปล่อ)- อีกวิธี ที่จะทำให้เว็บเป็นที่รู้จักด้วยการทำ E-mail List- เล่น msn หรือ Yahoo Messenger หรือ Chat- แลกลิงค์ (link)

** เมื่อคุณได้เดินทางมาถึงขั้นนี้แล้ว หมั่นโปรโมทเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก คงไม่นานจะมีรายได้จากธุรกิจ จับเสือมือเปล่านี้อย่างแน่นอนครับ **ขั้นตอนต่อไป >>> Step 8 : เช็ครายได้ / รับเงิน

step 6 : การติดโฆษณาลง Blog

step 6 : การติดโฆษณาลง Blog

ในบทเรียนนี้ จะได้เรียนรู้วิธีนำ Code มาติดที่บล็อกของเรา เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เริ่มกันเลยครับ

1.Login เข้าไปที่ >>> Blogger.com

2.ใส่รหัสผู้ใช้อีเมลของคุณ xxxxxx@gmail.com และ รหัสผ่าน xxxxxxxxxxของท่าน3.จะปรากฎหน้าต่าง จัดการบล็อกของคุณ (Dashboard) ให้เราคลิกที่ >>> เลย์เอาต์(รูปแบบ)4.จากนั้นคลิกที่ >>> เพิ่มองค์ประกอบของหน้า5.จากนั้นคลิกที่ >>> HTML/จาวาสคริปต์6.ให้นำ Code ที่ได้นำมาจาก AdSense นำมาใส่ที่กรอบเนื้อหา7.จากนั้นคลิกที่ >>> จัดเก็บการปรับเปลี่ยน8.จะเห็นแถบ HTML/จาวาสคริปต์ ที่เก็บโฆษณาอยู่ ซึ่งเราสามารถที่จะคลิกลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ คลิกซ้ายที่ HTML/จาวาสคริปต์ค้างไว้แล้วลากไปทางซ้าย ทางขวา ด้านบน หรือได้ล่างก็ได้ครับ9.จากนั้นคลิกที่ >>> บันทึกข้อมูล >>> คลิกที่ >>> ดูบล็อก

**เพียงเท่านี้บล็อกของคุณก็มีโฆษณาเพื่อทำเงินให้คุณได้แล้วครับ**ขั้นตอนต่อไป >>> Step 7 : การโปรโมท Blogger

นำโฆษณามาจาก Adsense

Step 5 : นำโฆษณามาจาก Adsense

วิธีนำ Code โฆษณามาจาก Google AdSense
1. หลังจากสมัคร Google AdSense ผ่านเรียบร้อยแล้ว ให้คุณ Login เข้าGoogle AdSense

2. เมื่อ Login เข้า Google AdSense เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ AdSense Setup จะมี Ads (โฆษณา) ให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้

(1.) AdSense for content : เป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเว็บไซต์ ซึ่งแบ่งออก 2 ข้อย่อย ดังนี้

- Ad unit : สร้างโฆษณาแบบข้อความอย่างเดียว, สร้างโฆษณาแบบรูปภาพอย่างเดียว หรือ สร้างโฆษณาแบบข้อความสลับแบบรูปภาพก็ได้ โดยโฆษณานั้นจะมีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 3 อัน ดูขนาดของโฆษณา (คริกเพื่อดูขนาดโฆษณา)

- Link unit : สร้างโฆษณาแบบลิงค์ ซึ่งลักษณะโฆษณาเหมือนลิงค์ หรือ หัวข้อของเว็บไซต์ ซึ่งโฆษณานั้นก็จะมีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ เช่นกัน ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 3 อัน ดูขนาดของโฆษณา (คริกเพื่อดูขนาดโฆษณา)

3. เมื่อเลือกได้แล้วว่าต้องการโฆษณาอันไหน จากนั้นกดที่ปุ่ม Continues >>

4. หน้าถัดมานี้ ให้เรากำหนด
- Format : ให้เลือกขนาดของโฆษณา - Colors : เป็นการปรับแต่งสีของโฆษณาให้เหมาะกับเว็บ/บล็อกของเรา - Corner Styles : เป็นการเลือกรอบโฆษณา เช่น กรอบสี่เหลี่ยม ฯลฯ เมื่อได้ตามต้องการแล้ว คลิกปุ่ม Continues >>>

5. จากนั้นจะเห็นแถบ Add new Channel เป็นการกำหนดว่าจะนำโฆษณาชุดนี้ไปติดที่เว็บไหน เพื่อที่จะรู้ว่าเว็บไหนทำเงิน
ในส่วนนี้จะเพิ่มหรือไม่เพิ่มก็ได้ ถ้าไม่ต้องการ ก็สามารถคลิก Contines >> ได้เลย
- เพียงเท่านี้เราก็จะได้โค๊ดโฆษณาทำเงินสำหรับติดที่เว็บ/บล็อกแล้วครับ
- ให้ คัดลอก(Copy) Code แล้วเปิดโปรแกรม Notepad (ซึ่งจะมีอยู่ทุกเครื่องไปที่ Start > Programs > Accessories > Notepad) จากนั้นให้ วาง(Paste) Code ใส่ในโปรแกรม Notepad และ Save เก็บไว้สามารถนำมาใช้ได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องมาสร้างใหม่ครับ

(2.) AdSense for search : เป็นการสร้าง Code โฆษณา เพื่อจะได้กล่องสำหรับค้นหาเว็บไซต์ เป็นกล่องค้นหา สำหรับมาติดในเว็บไซต์ ซึ่งผู้เยี่ยมชมใช้ค้นหาเว็บไซต์ได้ทั่วโลก และยังใช้ในการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณก็ได้ สามารถปรับแต่งกล่องค้นหาเว็บไซต์ ให้เข้ากับเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 2 อัน มีขั้นตอนในการนำโค๊ดดังนี้
1. ไปที่ AdSense Setup2. คลิกที่ AdSense for Search
จากนั้นจะพบกับ Search Type ซึ่งมีให้เลือก 2 อย่างคือ
- Google WebSearch :
- Google WebSearch + SiteSearch3. สามารถเลือกได้ว่าจะให้ค้นหาจาก Google อย่างเดียว หรือให้ค้นหาในเว็บไซต์ของเราด้วย ถ้าต้องการให้ค้นหาในเว็บของเราด้วย ก็ให้ใส่ชื่อเว็บของเราลงไป4. ในส่วนของ Search box style เป็นการปรับแต่ง Search Box ทดลองปรับดูนะครับให้เหมาะกับเว็บเรา5. ต่อมาในส่วนของ Site language เป็นการเลือกภาษา ให้เลือกเป็น English6. ในส่วนของ Opening of search results page เป็นการกำหนดว่า เมื่อคลิกค้นหาแล้ว จะให้แสดงในหน้าต่างเดียวกัน หรือเปิดเป็นหน้าใหม่
- ในส่วนของ Your site encoding เป็นการเลือกว่าเว็บของเรานั้นใช้รหัสแบบใด แนะนำให้เลือกเป็น Unicode (UTF-8) จากนั้นคลิก Contines>> คลิก Contines >>>
- เพียงเท่านี้เราก็ได้โค๊ดโฆษณาของกล่องค้นหา Search Box แล้วครับ

(3.) Referrals : เป็นโฆษณาเพื่อแนะนำบริการต่าง ๆ ของ Google
รายได้จากการแนะนำสินค้าและบริการของ Google มีให้เลือกมากมาย แต่ของ Google มีอยู่ 3 อันหลักๆ ดังนี้
- Google AdSense : แนะนำ AdSense ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน
- Google AdWords : แนะนำ AdWords ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน
- Firefox : แนะนำให้ดาวน์โหลด Firefox ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน

ขั้นตอนในการนำโค๊ดโฆษณามาใช้งาน
1. ไปที่ AdSense Setup2. คลิกเลือที่ Referrals3. จากนั้นจะเห็น All Product สินค้ามากมาย ซึ่งทุกตัวจะทำขั้นตอนเดี่ยวกัน ดังนั้นในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง 1 สินค้า เป็น Firefox ก็แล้วกันนะครับ- คลิกที่ View products (อยู่ต่อจาก Google Products >>> View Products) จะเห็นสินค้าอยู่ 3 ตัว ให้เลือกเอาว่าต้องการอันไหน เช่น ผมต้องการสินค้า Firefox ก็คลิกที่ Firefox plus Google Toolbar
- จากนั้นจะเห็นรูปแบบต่างๆ ขนาดต่างๆ ของสินค้า สามารถเลือกได้ตามต้องการครับ โดยคลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้า
- จากนั้นคลิก Continues >>> (อยู่ด้านล่างสุด)
- เพียงเท่านี้ก็ได้โค๊ดสินค้า FireFox เพื่อทำเงินแล้วครับ ใครมาดาวน์โหลดจากเว็บเรา เราก็ได้เงินสบายๆ ครับ
ขั้นตอนต่อไป >>> Step 6 : การติดโฆษณาลง Blog

การสมัคร Google Adsense เว็บไซต์สำเร็จรูป

4 : การสมัคร Google Adsense

ขั้นตอนการสมัคร Google AdSense
1.การสมัคร Google AdSense ดังที่เราได้แนะนำการสร้างเว็บบล็อกเป็นภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว2.ในเว็บบล๊อคของผม ให้คุณลองมองไปทางขวามือ >>>>>> แล้วคริก สมัคร Google Adsense3.ให้ คริก >>> Sign up now (คือปุ่มการสมัครนั่นเอง)4.จากนั้นให้ พิมพ์ข้อมูลต่างๆ ที่ทาง Google กำหนด โดยพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ ดังนี้

Website Information
- Website URL : [?] : ใส่ชื่อเว็บไซต์/บล็อกของคุณ เช่น : http://freemoney-boatsang.blogspot.com/
- Website language : เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น : English - English

Contact Information
- Account type: [?] : เลือกประเภทของเว็บคุณ 
(1.บุคคลธรรมดา : Individual) 
(2.องค์กรธุรกิจ/บริษัท : Business)
- Country or territory : อยู่ในประเทศเลือก : ประเทศไทย
- Payee name : (full name) ชื่อผู้รับเงิน (ให้ใส่ทั้งชื่อ และนามสกุลของคุณ)
- Address line 1 : เลขที่ตั้ง ซอย ถนน
- Address line 2 (optional): แขวง/ตำบล
- City : เขต/อำเภอ
- State, province or region : จังหวัด
- Zip or postal code : รหัสไปรณีย์
- Phone : หมายเลขโทรศัพท์ เช่น 087-606-3510 ก็ใส่เป็น 66876063510
- Fax (optional) : หมายเลขโทรสาร (เว้นว่างไว้ก็ได้)

Product Selection
- AdSense for Content : ให้ทำเครื่องหมายถูก
- AdSense for Search : ให้ทำเครื่องหมายถูก
- Policies : ให้ทำเครื่องหมายถูก ทุกอัน (กฎเบื้องต้นของ AdSense)
- จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง ให้คนอื่นคลิก
- ไม่วางโฆษณาในบริเวณกระตุ้นการคลิก เช่น Download
- ยินยอมที่จะให้สั่งจ่ายเช็คตามผู้รับด้านบน
- ไม่วางโฆษณาในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ลามกอนาจาร เป็นต้น
- คุณได้อ่านตามข้อกำหนดใน Adsense Program Policy แล้ว

5.เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ >>> Submit Information6.คลิกหัวข้อที่ 2 : I have an email address and password I already use.....7.จากนั้นคลิกที่หัวข้อแรก : I'd like to use my existing Google Account for AdSense.8.ใส่อีเมลและพาสเวิร์ด ของเรา (Gmail)9.เป็นการแจ้งจาก Google AdSense ว่าจะให้ รอประมาณ 1-3 วัน เพื่อให้ทาง Google AdSense วิเคราะห์เว็บไซต์/บล็อกที่เราส่งไปสมัคร Google จะตอบกลับมาทางอีเมล์

ปล.ย้ำนะครับ ทาง Google จะวิเคราะห์ บล๊อกของเราประมาน 1-3 ดังนั้นให้เพื่อนๆคอยเช็ค Gmail ด้วยนะคับ

เมื่อทาง Google AdSense วิเคราะห์เว็บเราเสร็จแล้ว ก็จะแจ้งมาทางอีเมล เพื่อให้ยืนยันการมีตัวตนอีกครั้ง ให้เข้าไปดูที่อีเมลของเรา จะมีข้อความส่งมาจาก Google AdSense (ระยะเวลาในการส่งเมลมาประมาณ 1-3 วัน จากที่ได้สมัคร) ข้อความจะปรากฎด้านล่างครับ เป็นการแสดงความยินดี Welcome to Google AdSense



ให้คลิกที่ >> Visit https://www.google.com/adsense?hl=en US จากเมลของคุณ



จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกที่ [/] By Checking......I Accept และคลิกที่ I Accept ยอมรับ

หลังจากนั้น ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษ
1. คลิกที่ หัวข้อ My Account2. คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue3. หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือกNo และ กดปุ่ม Continue4. หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ - นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher... และนี่ถือว่าเป็นลายเซ็นของคุณ และ กดปุ่ม >>> Submit information5. เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้น ให้เลือกการรับเงินรายได้
1. คลิกที่ หัวข้อ My Account2. คลิกหัวข้อย่อย Payment History3. คลิกที่ Please select or verify a form of payment4. ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue5. ในหน้าถัดมา ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change

**เพียงเท่านี้ คุณก็เป็น Publisher : ผู้เผยแพร่โฆษณาทางอินเทอร์เน็ต สามารถทำเงิน ด้วยการแสดงโฆษณา ด้วยธุรกิจของคุณเอง 100%**ขั้นตอนต่อไป >>> Step 5 : นำโฆษณามาจาก Adsense

วิธีใช้งาน Blogger สร้างเว็บบล็อก ขายเว็บสำเร็จรูป

 : วิธีใช้งาน Blogger สร้างเว็บบล็อก

เราจะได้ศึกษาถึงวิธีการใช้งานเว็บบล็อกกันว่า วิธีการเพิ่มเนื้อหารายละเอียดเขาทำกันอย่างไร? 

1.ให้เราคลิกที่ เริ่มต้นส่งบทความจะปรากฎหน้าต่างด้านล่าง ซึ่งจะให้เราใส่ข้อความ / รูปภาพ ตามความต้องการโดยการคลิกที่ สร้าง -ชื่อเรื่อง (คือหัวข้อเรื่องที่เราต้องการ) และมีพื้นที่สำหรับการใส่ข้อความ, รูปภาพเป็นต้น2.หากใครที่ปิดขั้นตอนการทำงานไปแล้วจากบทที่ Step 2 แล้ว ก็สามารถ Login เข้ามาใหม่โดย >>> คริกที่นี่

3.ให้เราพิมพ์ E-mail ที่เราได้สมัครไว้กับ Gmail เช่น-รหัสผู้ใช้ : xxxxxxxxx@gmail.com

-รหัสผ่าน : xxxxxxxxxxxx4.จากนั้นคลิกที่ >>> ลงชื่อผู้ใช้งาน

ต่อมาเราจะมาดูวิธีการหาบทความ / รูปภาพมาใส่เว็บบล็อก
มาเริ่มสร้างสรรผลงานกันต่อครับ ในส่วนของการนำข้อความ/บทความมาใส่เว็บบล็อกของเรานั้น แนะนำให้ใช้เป็นภาษาอังกฤษก่อนนะครับ (เพื่อเอาเว็บบล็อกอันนี้ไปสมัคร AdSense ให้ผ่านก่อน เมื่อผ่านแล้วจะมาสร้างเว็บที่มีเนื้อหา ภาษาไทยก็ได้ครับ ย้ำว่า ครั้งแรกต้องเป็นภาษาอังกฤษให้ผ่านก่อน) ให้มีเนื้อหาพอสมควรเพราะว่าเราจะต้องใช้เว็บบล็อกอันนี้ในการขอสมัครใช้งานจาก Google AdSense เพื่อที่จะนำโฆษณามาทำมาหากินได้

แหล่งรวบรวมบทความเนื้อหาภาษาอังกฤษฟรีๆ1. http://www.goarticles.com/

2. http://www.contentmart.com/

3. http://www.superfeature.com/

4. http://www.freshcontent.net/

ต่อมาคือขั้นตอนการใส่บทความนะคับ1.ให้ทำการคัดลอกเนื้อหาภาษาอังกฤษ มาวางไว้ในเว็บบล็อกของท่าน2.เนื้อหาบทความในเว็บอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 2 หน้ากระดาษ A4 เพื่อให้ทาง Google วิเคราะห์ เว็บไซต์ ถ้าเนื้อหาน้อยเกินไป อาจจะไม่ผ่าน เนื่องจากเป็นเว็บไม่ได้มาตรฐาน3.ถ้าหากคุณใช้เว็บที่มีเนื้อหาเป็นภาษาไทย ณ ขณะนี้ ผมฟันธงได้เลยว่า จะสมัครไม่ผ่าน เนื่องจากทาง Google AdSense ยังไม่รองรับเว็บที่มีเนื้อหาภาษาไทยครับ แต่ถ้าเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษ และมีรายละเอียดมากพอสมควร ผมมั่นใจว่าต้องผ่านแน่นอนครับ4.สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ แหล่งที่มาของเนื้อหา ให้เราบอกแหล่งที่มาด้วยจะดีมาก เป็นการให้เครดิตกับผู้เขียน5.เมื่อได้เนื้อหาแล้ว ก็นำมาวางในพื้นที่สำหรับใส่เนื้อหา

วิธีการนำรูปภาพมาใส่เว็บบล็อกสามารถทำได้ดังนี้1.คลิกที่ไอคอนรูปภาพเล็กๆ เมื่อนำเม้าส์ไปวางด้านบนจะขึ้นข้อความว่า เพิ่มรูปภาพ จากนั้นจะขึ้นหน้าต่างด้านการจัดตำแหน่งของรูปภาพ2.จากนั้นคลิกที่ >>> Browse... เพื่อเลือกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ3.คลิกที่รูปแบบ (จะให้จัดรูปภาพไว้ตำแหน่งไหน)4.คลิกเครื่องหมายถูกที่ [ / ] ข้าพเจ้ายอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ5.คลิก >>> อัพโหลดรูปภาพ6.เสร็จขึ้นตอนการอัพโหลดรูปภาพ คุณสามารถคลิกที่รูปภาพแล้วลากไปที่ๆคุณต้องการได้ครับ เว็บไซต์ของคุณก็จะมีทั้งข้อความและรูปภาพน่าสนใจมากยิ่งขึ้น7.จากนั้นคลิกที่ >>> เผยแพร่ (ปุ่มแดงด้านล่าง) เพื่อเสร็จสิ้นการจัดทำเว็บบล็อก

เทคนิคเล็กน้อย
1.คลิกที่ >>> View Blog (ดูบล็อก) เพื่อตรวจดูเว็บบล็อกของเรา2.เครื่องมือต่างๆ ท่านสามารถศึกษาได้เพิ่มเติม เพราะว่าเป็นภาษาไทยหมด เพียงเท่านี้คุณก็ได้มีเว็บบล็อกเพื่อสมัครเป็นของตนเองแล้ว3.คุณสามารถที่จะสร้างเว็บบล็อกได้ไม่จำกัดหน้า สามารถตั้งหัวข้อใหม่ได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณสามารถที่จะเพิ่มเนื้อหา รายละเอียดต่างๆ ให้กับเว็บบล็อกของคุณให้น่าสนใจได้ตลอดเวลา

**เป็นอย่างไรบ้างครับกับการเรียนรู้การสร้างเว็บบล็อก Blogger ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ ตอนนี้เรามีเครื่องมือที่จะเดินทางกันแล้ว**ขั้นตอนต่อไป >>> Step 4 : การสมัคร Adsense

การสมัคร Gmail เว็บไซต์สำเร็จรูป

Step 1 : การสมัคร Gmail

ก่อนที่เราจะมาสมัคร Gmail ผมมีอะไรอยากจะเสนอแนะนิดนึงคับก่อนที่เราจะสมัคร Gmail นั้น ให้คุณมองไปทางขวา ของ Website จะเห็นโปรแกรม Firefox อยู่ แนะนำให้โหลดไปนะคับ เพราะเวลาสมัคร Web ทาง Google จะมีคนเข้าใจจำนวนเยอะ ดังนั้น Firefox เวลาเปิดเน็ทมันจะทำงานเร็วขึ้น 2 เท่าคับผม

การสมัคร Gmail ไม่มีอะไรยุ่งยากนักแค่กรอกแบบฟอร์มเท่านั้นคับ


1. คลิก >>> ที่นี่เพื่อสมัคร Gmail

2. จากนั้นคลิกที่ ลงทะเบียน Gmail (Sing Up For Gmail) จะปรากฎหน้าต่าง สร้างบัญชี

3. พิมพ์รายละเอียดตามที่ปรากฎให้ครบ (เป็นภาษาอังกฤษนะครับ)

First name : ชื่อใส่ชื่อเราลงไปLast name : นามสกุลใส่นามสกุลเราลงไปDesird Login Name : ชื่อการเข้าสู่ระบบที่ต้องการCheck availability! : คลิกเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใช้แล้วหรือยังChoos a password : รหัสผ่านRe-enter a password : กรอกรหัสผ่านอีกครั้งSecurity Question : เลือกคำถามที่ต้องการAnswer : คำตอบSecondary email : เมล์สำรองเพื่อแจ้งปัญหาLocation : เลือกเป็น ราชอาณาจักรไทยThailand Word Verification : พิมพ์คำตามที่ปรากฎในรูปที่เห็น4.คลิก I accept Create my account (ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน)

** Finished : เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัคร Gmail ครับผม **ขั้นตอนต่อไป >>> Step 2 : การสมัคร Blogger

วิธีหาเงินกับ google adsense และเว็บไซต์สำเร็จรุป

 Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้นโฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณแล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นำ Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณาของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการค้นหา

สรุปหลักการง่ายๆ
 : Google AdSense เป็นวิธีหาเงินง่ายๆ ด้วยเว็บไซต์/บล็อก โดยการนำโฆษณาที่ได้จาการสมัคร AdSense มาวางไว้ที่หน้าเว็บไซต์/บล็อกของคุณ เพื่อให้ผู้ชมเข้ามาดูหรือเข้ามาคลิก คุณก็ได้เงินทุกๆ ครั้งที่มีการคลิกโฆษณาหรือแสดงโฆษณานั้น แม้จะไม่มีการซื้อขายใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม ยิ่งมีผู้เข้ามามากและคลิกที่โฆษณามาก คุณก็ได้เงินมากตามไปด้วย
หากคุณพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนอนาคตคุณให้ดีขึ้น โดยที่
1. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
2. ไม่ต้องเสียเวลาเข้าอบรม
3. ไม่ต้องเสียค่ารถค่าเรือเดินทาง
4. ไม่ใช่การซื้อของ
5. ไม่ใช่การขายของ
6. ทุกขั้นตอนการทำฟรีหมด พร้อมคำแนะนำอย่างละเอียดยิบ ไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงความรู้ เผยแพร่จากประสบการณ์ตรง
7. คุณเป็นเจ้าของ 100% (สามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการ)
8. สามารถพิสูจน์เห็นผลได้จริง ฯลฯ

คุณพร้อมกันแล้วหรือยัง ? ถ้าพร้อมแล้วลุยกันเลยย!!!

ขั้นตอนต่อไป >>> Step 1 : การสมัคร Gmail

Mifi คือ อะไร

Mifi คือ อะไร
Bookmark and Share

บทความน่ารู้ เรื่องMifi คือ อะไร
ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า WiFi (วายฟาย) บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายสาธารณะที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อไร้สาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือเน็ตบุ๊กเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายในอณาบริเวณที่ได้รับการติด ตั้งฮอตสปอต แต่สำหรับคำว่า MiFi (มายฟาย) คงจะไม่คุ้นหูใครหลายๆ คนแน่นอน ว่าแต่เจ้า MiFi คืออะไรล่ะ?

MiFi ไม่ใช่ชื่อย่อของเทคโนโลยี แต่ป็นชื่อเรียกแก็ดเจ็ดใหม่ล่าสุดจากบริษัท Novatel Wireless โดยนิยามสั้นๆ ของมันก็คือ "ฮอตสปอตเคลื่อนที่อัจฉริยะ" อาจจะรู้สึกสับสนเล็กน้อยกับนิยามของอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้ เพราะตามปกติฮอตสปอตจะได้รับการติดตั้งตามจุดต่างๆ มากกว่าที่มันจะเคลื่อนที่ไปเรื่อย แต่สำหรับเจ้า MiFi มันสามารถตามติดไปกับคุณได้ทุกที่

แต่เอาเป็นว่า ก่อนที่จะงงกันไปใหญ่ เรามาดูรายละเอียดของอุปกรณ์ชิ้นนี้กันดีกว่า MiFi ประกอบด้วยเราท์เตอร์ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อบรอดแบนด์ 3G โดยมีขนาดเล็กเท่าบัตรเครดิตพกพาใส่กระเป๋าเสื้อได้อย่างสบายๆ ผลลัพธ์ก็คือทำให้ผู้ใช้มีวายฟายฮอตสปอตไปใช้งานที่ไหนก็ได้นั่นเอง เราท์เตอร์ MiFi จะมีแบตเตอรี่สำหรับการทำงานอยู่ภายใน ซึ่งเมื่อชาร์จจนเต็มจะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 4 ชั่วโมง หรือสแตนด์บาย 40 ชั่วโมง นอกจากจะทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเน็ตที่ไหนก็ได้ โดยเชื่อมต่อไร้สายผ่านตัวมันด้วยเทคโนโลยี 3G แล้ว MiFi ยังสนับสนุนการใช้ VPN ตลอดจนการซิงค์อีเมล์โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งค่าการทำงาน

Mifi (อ่านว่า มาย ฟาย) ถ้าเห็นคำว่า
  • Mobile Wifi
  • Portable Wifi
  • Portable Hotspot
  • Personal Hotspot
ให้เข้าใจว่า มันคือตัวเดียวกันครับ แต่เรียกง่ายสุด คือ Mifi
หลัการมันก็เหมือน Aircard ครับ คือเปลี่ยนสัญญาณ ในซิมมือถือ เป็นสัญญาณ Internet ว่าง่ายๆ ใส่ซิมลงไป แล้วทำให้คอมพิวเตอร์ มือถือ Tablet เครื่องเล่นเกมส์ Dreambox เล่นเนตได้ ขนาดของมันก็เล็กๆ เท่ากับมือถือเครื่องเล็กๆ เครื่องนึง ประมาณ​ Nokia รุ่น 8210 8250 รุ่นผีเสื้อสมัยก่อน

Mifi ต่างกับ Aircard ยังไง
อย่างแรก ก็คือ Aircard จะใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์ที่มี Port USB เท่านั้น พวก Computer หรือ Notebook เท่านั้น
ถ้าเป็นพวก Tablet Galaxy Tab, Iphone, Andriod Tab ต่างๆ หรือแม้แต่มือถือ Iphone, Ipod เครื่องเกมส์ PSP พวกนี้จะไม่มี Port USB มาให้ Aircard จะใช้ไม่ได้ครับ

แต่ตัว Mifi นี้ สบายครับ เราจะต่อแบบไร้สาย ทำให้อะไรก็ตามที่ต่อ Wifi ได้สามารถใช้ได้ครับ เวลาใช้ก็เหมือนวางมือถือบนโต๊ะ ละต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เวลาใช้ก็ง่ายครับ เดินขึ้น BTS ก็เล่น Ipad ดู YouTube แบบเพลินๆได้ ถ้าจะใช้ Aircard ก็ได้ครับ แต่ต้องเอา Aircard ต่อ Notebook ขึ้นรถไฟฟ้าดู มันคงเทอะทะ พิลึก สงสัยกว่าจะเซตเสร็จ ถึงป้ายพอดี ฮา …

และด้วยความที่ว่ามันไร้สายนี่ละ เวลาต่อก็ไม่ต้องพกสายไฟให้เทอะทะ หรือแม้แต่ Setup Config Security Password ต่างๆ ก็สามารถทำได้แบบไร้สายผ่าน Browser พวก IE, Firefox, Safari, Google Chrome เป็นต้น ไม่ต้องมีสายให้ยั้วเยี้ยครับ

อย่างที่สอง 
สามารถใช้ได้หลายคนพร้อมกันครับ ไม่เหมือน Aircard ที่ใช้แบบ 1 ต่อ 1

Mifi จะสามารถกระจายสัญญาณ Internet แบบไร้สายให้ใช้พร้อมกันได้ ถึง 5 คน พร้อมกันครับ ถือว่าชิวไป ถ้าไปกับเพื่อน ลูกน้อง หรือว่าแฟน ก็ใช้ด้วยกันได้ ประหยัดดีครับ

Tuesday, April 15, 2014

วิธีสร้างบล็อกเกอร์ blogger รุ่นใหม่ล่าสุด

ขั้นตอนการสร้างบล็อก

1. ให้ทำการสมัครบัญชีของ Gmail ของ google แต่ถ้าใครมีบัญชี Gmail อยู่แล้วก็ทำการล็อกอินเพื่อสร้างบล็อก ของ http://www.blogger.com/ ได้เลย ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อเราเข้าไปที่เว็บwww.blogger.com หน้าเพจแรกจะถามบัญชีถึงบัญชี Gmail ของผู้ที่จะทำการสร้างบล็อกสำหรับนักศึกษาที่มีบัญชี Gmail อยู่แล้ว ก็กรอกชื่อบัญชี Gmail และ รหัสผ่านของตน ดังภาพ



หากใครยังไม่มีบัญชีให้คลิกที่เมนู Sign up เพื่อทำการสมัครบัญชี Gmail ใหม่



2. เมื่อเราเข้าไปที่ www.blogger.com ที่ได้ทำการล็อกอินบัญชีของ Gmail แล้ว หน้าแรกของ blogger
จะมีหน้าตาดังภาพ ใคลิกไปที่เมนู “บล็อกใหม่” เพื่อทำการสร้างบล็อก



3. เมื่อเราคลิกไปที่เมนูเพื่อสร้างบล็อกใหม่แล้ว ให้ทำการกรอกรายละเอียดดังนี้ คือ ตรงหัวข้อ ให้พิมพ์ชื่อบล็อก ตรงที่อยู่ ให้ตั้งชื่อ URL ซึ่งควรใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษและตัวเลข และต้องดูตรงสถานะของบล็อกด้วยว่าชื่อ URL ที่ตั้งไปนั้นมีผู้ใช้แล้วหรือยังไม่มีผู้ใช้ มันจะแจ้งว่า “ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้” เสร็จแล้วให้ทำการเลือกรูปแบบ จากแม่แบบว่าจะให้บล็อกมีหน้าตาในการแสดงผลเช่นไร เมื่อเลือกแล้วก็ คลิกเมนู “สร้างบล็อก”



4. เมื่อทำการสร้างบล็อกแล้ว เราจะกลับมาที่หน้าจัดการบล็อกเพื่อทำการตกแต่งบล็อกให้ดูสวยงามโดยการใส่รูปภาพ
หรือ โค๊ดต่างๆ ให้นักศึกษาทำการคลิกลูกศรสีดำ เพื่อเลือกเมนู รูปแบบ ดังภาพ




5. เมื่อคลิกเมนูรูปแบบ แล้วจะมีหน้าตาดังภาพให้คลิกที่ เมนู เครื่องมือออกแบบเทมเพลต เพื่อปรับแต่งหน้าเทมเพลตตามที่เราต้องการ



เมื่อคลิกแล้วทำการเลือกรูปเทมเพลต ตามต้องการ เมื่อเลือกแล้วให้คลิกที่ เมนู “ใช้กับบล็อก” เพื่อบันทึกรูปแบบเทมเพลต



6. เมื่อทำการเลือกรูปแบบของเทมเพลตแล้วให้กลับมาที่ “รูปแบบ” อีกครั้ง เพื่อทำการใส่หัวบล็อกและตกแต่งบล็อก
โดยคลิกเลือกเมนู แก้ไข ตรงส่วนของ ชื่อบล็อก



เมื่อคลิกเมนู แก้ไข แล้วให้คลิกที่ เมนู “เลือกไฟล์” เพื่อเลือกไฟล์ภาพที่จะนำมาเป็นหัวบล็อก
เมื่อเลือกภาพได้แล้วกด open จากนั้นระบบจะทำการอัพโหลดภาพดังกล่าวเข้าไป
เมื่อระบบอัพโหลดภาพเสร็จแล้ว ให้คลิกเลือก เมนู “แทนที่ชื่อและคำอธิบาย”
เสร็จแล้วกดเมนู “บันทึก” เพื่อทำการบันทึกภาพดังกล่าวซึ่งจะเข้าไปอยู่ในตำแหน่งหัวบล็อก ดังภาพ



7. เมื่อทำการใส่หัวบล็อกเสร็จแล้ว ให้คลิกที่เมนู “เพิ่ม Gadget”
เพื่อใส่โค๊ด ปฏิทิน นาฬิกา สถิติผู้เยี่ยมชม แล้วแต่ความต้องการของเรา แล้วคลิกเมนู “บันทึกการจัดเรียง”



8. เมื่อทำการใส่โค๊ดตกแต่งตามต้องการแล้ว ให้เลือกเมนู “หน้าเว็บ” เพื่อทำการสร้างหน้าเว็บเพจต่างๆ ตามต้องการ
คลิกที่เมนู “แสดงหน้าเว็บเป็น” เลือกลูกศรสีดำ แล้วคลิกเลือกรูปแบบ “แท็บด้านบนสุด”
แล้วกด “บันทึกการจัดเรียง” ดังภาพ



เมื่อทำการเลือกตำแหน่งของแท๊บเมนูแล้ว ให้ คลิกเมนู หน้าเว็บใหม่และเลือกลูกศรสีดำ เลือกเมนู “หน้าเว็บเปล่า” เพื่อสร้างหน้าเพจต่างๆ


8. เมื่อคลิกเมนูสร้างหน้าเว็บแล้ว ให้ตั้งชื่อเว็บเพจ ตรงช่อง และพิมพ์รายละเอียดลงไป แล้วคลิกที่เมนู “บันทึก”



9. เมื่อทำการสร้างเมนูเว็บเพจ แล้ว ท่านสามารถที่จะทำลิงค์ไปเว็บไซต์หรือบล็อกต่างๆ โดยคลิกที่เมนู เพิ่ม “Gadget”
แล้วเลือก ฟังก์ชัน “รายชื่อลิงค์” แล้วคลิกเครื่องหมาย + เพื่อสร้างลิงค์ ดังภาพ




เมื่อคลิกที่ฟังชันก์ รายชื่อลิงค์แล้ว ให้ทำการ พิมพ์ชื่อเมนู ว่า “ Link Exchange” และ copy ลิงค์ ที่ต้องการเชื่อมโยงของเพื่อนมาใส่ไว้ในช่อง URL ของไซต์ใหม่ และ ตรงชื่อเว็บไซต์ให้ พิมพ์ชื่อ ของเว็บบั้นๆ ที่ต้องการทำลิงค์ เมื่อทำเสร็จ ให้คลิกที่ เมนู “เพิ่มลิงค์” เพื่อทำการเพิ่มลิงค์เว็บไซต์อื่นๆต่อไปแล้วคลิกที่เมนู “บันทึก” ดังภาพ



เมื่อเราทำการสร้างลิงค์เสร็จ เมื่อกดบันทึกจะมีหน้าตาดังภาพ ซึ่งในกรณีที่เราต้องการเพิ่มลิงค์ต่อให้คลิกที่ เครื่องมือ “แก้ไข” ดังภาพ



ราสามารถทำการเคลื่อนย้ายตำแหน่ง โดยการคลิกลากมาไว้ในตำแหน่งที่เราต้องการได้



เราสามารถปรับเปลี่ยนความกว้างในการแสดงผลหน้าจอได้ โดยคลิกไปที่เครื่องมือ เครื่องมือออกแบบเทมเพลต แล้วเลือก “ปรับความกว้าง” ดังภาพ




10. ในการสร้างบทความ ให้คลิกไปที่เมนู “บทความใหม่” ดังภาพ



11. เมื่อคลิกเมนูสร้างบทความใหม่แล้ว ให้นักศึกษา ทำการแทรกภาพ โดยการคลิกที่
ไอคอน แทรกรูปภาพ คลิกที่เมนู เลือกไฟล์ และทำการเลือกรูปภาพ แล้ว กด open ดังรูป



ระบบจะทำการอัพโหลดไฟล์รูปดังกล่าว เมื่ออัพโหลดเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ “เพิ่มรายการที่เลือก”



เมื่อทำการเลือกภาพแล้ว ภาพดังกล่าวจะเข้ามาอยู่ในแบบร่างบทความ ดังรูป เสร็จแล้วพิมพ์รายละเอียดลงไป
แล้วคลิก เมนู เพื่อทำการ “บันทึก” บทความความ และ เผยแพร่ บทความ



เมื่อกดบันทึกแล้ว จะเข้ามาสู่หน้าจอ รายการที่แสดงถึงบทความที่เราสร้างขึ้นเมื่อครู่ ถ้าหากเราต้องการ สร้างบทความเพิ่ม ให้คลิกที่ เมนูสร้าง บทความใหม่



ถ้าในบทความของเรา ต้องการเผยแพร่ผลงานวีดิโอจาก Youtube ให้เราคลิกที่ไอคอน แทรกวีดิโอ



ทำการเลือกวีดิโอจาก Youtube ซึ่งถ้าในกรณีที่เรามีคลิปในบัญชียูทูบของเราอยู่แล้ว ให้คลิกเลือกเมนู วีดิโอ Youtube
ของฉัน แต่ถ้าเราจะเอา คลิป Youtube จากแหล่งบัญชีอื่น ให้คลิกเมนูจาก Youtube แล้วเสริ์ชหาเอานะคะ



เมื่อทำการแทรกวีดิโอจาก Youtube แล้ว วีดิโอ ดังกล่าวจะเข้ามาอยู่ในแบบร่างบทความ ดังรูป



เสร็จแล้วทำการ กดบันทึก และ คลิกไปที่ เมนู แสดงตัวอย่าง ก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพ

เพียงขั้นตอนง่ายแค่นี้เราก็จะได้บล็อกส่วนไว้ใช้แล้วค่ะ ^^

Title tags กับการทำ Search Engine Optimization (SEO)

Title tags กับการทำ Search Engine Optimization (SEO)

Title tags นั้นตามปรกติจะใช้บอกชื่อหน้าของเว็บเพจ ซึ่งจะแสดงผลอยู่ด้านบนสุดของ web browser เป็นส่วนที่ถือว่าสำคัญมากในการทำ SEO เพราะผลลัพธ์ในการค้นหาที่ได้นั้นจะแสดงผลเนื้อหาที่อยู่ใน Title tags ก่อน 
Title optimize SEOหากเราสังเกตจะพบว่า 1 ใน 10 หรืออันดับต้นๆที่เป็นผลลัพธ์จากการค้นของของ Search Engine นั้นไม่มีผลลัพธ์ใดเลยที่ไม่มีคำที่ค้นหา (Keyword) อยู่ใน Title tags แน่นอนว่า keyword ที่อยู่ในเนื้อหา หรือ body tags นั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน แต่มันจะดีกว่าหากเราให้ความสำคัญตั้งแต่ชื่อของเว็บเพจ โดยพิจราณา หัวข้อดังต่อไปนี้ก่อนการตั้งชื่อให้กับเว็บเพจ 
  • Keyword สำคัญที่ต้องการให้ค้นหาเจอ หรือ keyword ที่เป็นตัวแทนของเว็บเพจนั้น จะต้องอยู่ใน Title tag
  • ความยาวไม่ควรเกิน 60 ตัวอักษร หรือประมาณ 7 ถึง 10 คำ
  • ควรทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านได้ง่าย
  • ไม่ควรใส่ชื่อหน้า เช่น หน้าแรก , ติดต่อเรา หรือ สินค้าของเรา เพราะไม่สื่อถึงความหมาย และผู้ใช้งานก็ไม่ได้ใช้คำพวกนี้ในการค้นหา
  • พยายามให้ keyword ที่ต้องการนั้นอยู่ชิดกัน เช่น ขายรถยนต์ Toyota ปี 1990 ไม่ควรใช้เป็น ขายรถยนต์ ปี 1990 ยี่ห้อ Toyota เพราะให้หัวข้อนี้เราต้องการเน้น keyword 2 ตัวคือ รถยนต์ และ Toyota
  • ควรให้ Keyword อยู่เป็นคำแรกใน Title tags
  • ไม่ควรใช้ Keyword ใน Title tags ซ้ำกัน เพราะจะทำให้คำนั้นกลายเป็นขยะไป
  • ลำดับของ Keyword ก็มีความสำคัญ เช่น Toyota Yaris ย่อมให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า Yaris Totota เพราะด้วยความคุ้นเคยที่เรามักจะค้นหาด้วยยี่ห้อของรถก่อน จากนั้นจึงใส่ชื่อรุ่น หรืออาจเป็นเพราะการโฆษณาที่ทำให้เราเคยชินกับชื่อ Totota Yaris

สุดท้ายนี้ Keyword อาจสำคัญสำหรับการทำ SEO ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำเว็บไซต์คือ เราทำให้คนอ่านไม่ใช่ให้คอมพิวเตอร์อ่าน ทางทีมงานจึงขอแนะนำว่าควรใช้คำที่มีความหมาย และสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด จึงจะมีประโยชน์มากที่สุด

การทำ SEO คืออะไร

การทำ SEO คืออะไร

SEO หรือ Search engine optimization คือกระบวนการที่พยายามเพิ่ม Traffic ที่มีคุณภาพ เข้าสู่เว็บไซต์ (ของคุณ) จาก Search Enigne ต่างๆ ด้วยวิธีการต่างๆ เพราะโดยปกติแล้วเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine ในลำดับแรกๆ มักจะถูกคลิกบ่อยกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่าง หรืออยู่หน้าถัดไป โดยปกติแล้วเป้าหมายการทำ SEO นั้นอยู่หลายที่ เช่น Image Search, Video Search แต่ที่เราใช้มากที่สุดคือ Web Search นั่นเอง พูดง่ายๆ ก็คือ SEO คือการทำสงครามระหว่าง WebMaster ทั้งหลาย เพื่อช่วงชิงตำแหน่งสูงๆ ของผลลัพธ์ในการค้นหาจาก Search Engine ชื่อดังต่างๆ โดยมี Keyword เป็น อาวุธนั่นเอง 
 
การที่จะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นเป็นผลลัพธ์แรกๆ ในการค้นหาจาก Search Engine นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราต้องอาศัยความพยายาม โดยหลักการทั่วๆ ไปดังนี้
  1. เลือก Domain Name ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์ ตัวอย่างของเว็บไซต์ที่เลือก Domain Name ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาคือ GameSpot.com ซึ่งตัวเว็บไซต์ ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Game
  2. การอัพเดทเนื้อหาที่สม่ำเสมอ การอัพเดทเว็บไซต์บ่อยๆ จะทำให้ Search Engine ได้รับข้อมูลใหม่ของเว็บไซต์เราบ่อยๆ โดยปกติแล้ว Search Engine จะชอบเว็บไซต์ ที่มีการเพิ่มเนื้อหาสม่ำเสมอ มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง
  3. แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน ย้ำนะครับว่าเนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกัน ไม่เช่นนั้น Search Engine จะมองว่าเว็บไซต์ที่เราลิงค์ไปนั้นไม่มีคุณภาพ หรือไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ในเว็บไซต์ที่มัน indexed อยู่ สิ่งนี้จะทำให้เราเว็บไซต์ของเรามีค่าลดลงในสายตาของ Search Engine
  4. อย่ามีแค่เนื้อหา ถ้าคุณเวลา คุณสามารถอัพโหลดรูปภาพประกอบเนื้อหาเข้าไปด้วยจะดีมาก เพราะคนที่เข้าชมเว็บไซต์เห็นตัวหนังสือเยอะๆ จะเริ่มเอียน มีรูปภาพบ้างประปราย คนอ่านจะได้พักสายตาบ้าง แถมเว็บไซต์ของคุณอาจจะมีโอกาสไปปรากฏในผลลัพธ์การค้นหารูปภาพของ Search Engine อีกด้วย สองเด้งเลยทีนี้ แน่นอนรวมถึงการอัพไฟล์วีดีโอด้วย ถ้าทำครบได้ก็ดีเลยครับ
  5. ออกแบบเว็บไซต์ให้น่าใช้ เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญนะครับคุณลองดูอย่างเว็บไซต์ wikipedia นะครับ เค้าไม่ได้ออกแบบให้หรูหราอะไรเลย ใช้สีอยู่ไม่กี่สี รูปภาพไม่กี่รูป แต่น่าอ่าน คนใช้แล้วอยาก ใช้อีก บางเว็บนะครับ (ไม่ขอเอ่ยชื่อเว็บ) ใช้สีเยอะแยะรูปเยอะไปหมด เปลี่ยนรูปตัวชี้เมาส์เราอีกตะหาก เว็บเหล่านี้แหละครับที่จะไม่ค่อยกลับมาใช้อีกเพราะว่ามันใช้ลำบากครับ


ท่านใครมีคำถามหรือข้อคิดเห็นสามารถถามต่อได้ในกล่องข้อความนี้ครับ

ลงโปรแกรมเพื่อจำลองเครื่องของเราให้เป็น Web Server ตอนที่ 2

ลงโปรแกรมเพื่อจำลองเครื่องของเราให้เป็น Web Server ตอนที่ 2

11. เปิด Firefox ขึ้นมา พิมพ์ "localhost" ใน address bar แล้วกด Enter


ถ้าปรากฏรูปด้านล่างแสดงว่าลงโปรแกรมสำเร็จ


กดเลือก English ครับ ไม่ไทยนะครับ จะปรากฏรูปด้านล่าง


12. ไปที่ที่เราลงโปรแกรม ผมลงไว้ไดร์ D ผมก็ไป D ซึ่งก็มี path คือ D:\xampplite ซึ่งจะเป็น Folder ชื่อ htdocs เราก็ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปในนั้นที่ซึ่งก็จะกลายเ็ป็น D:\xampplite\htdocs ซึ่งจะมีข้อมูลดังรูป


13. ในนี้สร้างโฟล์เดอร์ใหม่ขึ้นมาเพื่อจะเอาไว้เก็บเว็บเรา ผมจะสร้างชื่อ hellogointer นะครับ พวกท่านทั้งหลายจะใช้ชื่ออะไรก็ได้ครับ แต่จำชื่อไว้ให้ดีด้วยนะครับ


14. เข้าไปในโฟล์เดอร์ที่เราสร้าง ซึ่งจะว่างๆ ไม่มีอะไรดังรูป


คลิกขวา ในที่ว่างๆ นั้นแหละ และเลือกดังรูป



ดับเบิ้ลคลิกไฟล์นั้นแหละ จะได้หน้าต่างสำหรับเขียนไฟล์ text แล้วเขียนลงไปดังรูป


เลือก File และก็ Save As.. และก็แก้ไขดังรูป จากนั้นกด Save


15. ไปที่ Firefox ที่เราเปิดค้างไว้ ที่ address ใส่ localhost/ชื่อโฟล์เดอร์ที่คุณสร้าง/home.php ซึ่งของผมก็จะเป็น


ถ้าปรากฏรูปด้านล่างแสดงว่า code PHP ของคุณทำงานแล้ว แต่ภาษาไทยยังต่างดาวอยู่ ให้ไปที่.... ดังรูปด้านล่าง


ก็จะเป็นภาษาคนแล้ว


จบแล้วครับ งุงิ

ลงโปรแกรมเพื่อจำลองเครื่องของเราให้เป็น Web Server ตอนที่ 1

ลงโปรแกรมเพื่อจำลองเครื่องของเราให้เป็น Web Server ตอนที่ 1

โดยทั่วไปแล้วการพัฒนาภาษา PHP นั้นต้องการ 3 สิ่ง ซึ่งจะทำให้การพัฒนา Web Application ด้วยภาษา PHP นั้นราบรื่นและพร้อมที่จะพัฒนาเป็น Web Application ขนาดใหญ่ได้เลย 3 สิ่งนั้น คือ 

Apache 
PHP Server-Side
MySql

ซึ่งการที่เราจะลงที่ละตัวนั้นมันยุ่งยากมากซึ่งผู้พัฒนาทุกคนก็รู้ดีเลยพัฒนาโปรแกรมที่รวม 3 อย่างนี้ไว้ด้วยกัน นั่นคือ XAMPP นั่นเอง และนอกจาก 3 ตัวด้านบนแล้ว XAMPP ยังมีโปรแกรมอื่นที่เพิ่มมาเพื่อการพัฒนาเว็บ ให้ดียิ่งขึ้นอีกนั่นคือ 

phpMyadmin 
FileZilla 
Mercury Mail System 

โปรแกรม XAMPP สามารถโหลดได้ที่นี่ XAMPP หรือดาวโหลดโดยตรงได้ที่นี่ Downloadและมีวิธีลงตามขั้นตอนดังข้างล่างนี้

1. ดับเบิ้ลคลิกตัวโปรแกรมที่โหลดมาซะ จะเป็นรูปตามด้านล่าง



2. เลือกไดร์หรือที่อยู่ที่คุณต้องการจากปุ่่ม Browse หรือ เขียนเอาเองก็ได้ในช่องนั้น


3. กด install ซะ


รอไป

4.จะปรากฏหน้าจอ DOS ขึ้นมาดังรูป


บรรทัดใน DOS ถามว่าคุณจะสร้าง Shortcut บน Desktop หรือไม่ถ้าจะให้มันสร้าง ก็ใส่ y ถ้าไม่ก็ใส่ n แล้วก็ Enter


5.มันจะถามต่อว่าที่ที่มันลงโปรแกรมให้เนี่ยถูกที่ไหม ข้อนี้ไม่มีอะไรใส่ y ไปแล้วก็ Enter


6.ต่อมามันจะถามว่าจะให้ทำโปรแกรมนี้เป็นแบบ portable บนเครื่องไหม แบบ portable คือโปรแกรมลบได้ทันที ไม่ต้องกด unintall ตามปกติ


7.สุดท้ายมันก็จะทำงานสิ่งที่ตอบเลือกไปทั้งหมด


พอปรากฏรูปดังภาพก็ให้กด Enter

8. สุดท้ายมันจะถามเราว่ามันตั้ง TimeZone ให้เราถูกไหม ถ้าไม่ถูกให้ไปแก้ในไฟล์ php.ini และ my.ini เอง


แล้วก็กด Enter

9. จะปรากฏหน้าต่างดังกล่าว ซึ่งเป็นเมนูของโปรแกรมนี้ให้ใส่ 1 และกด Enter


จะปรากฏหน้าต่างใหม่ขึ้นมา


10. จากนั้นให้กดปุ่ม Start ข้างหน้า Apache และ MySql


ถ้ามันถามอะไรก็กด Unblock ให้หมด เพราะว่านี่เป็นโปรแกรมที่เราลงเองปลอดภัยอยู่แล้ว


นี่ก็ Unblock


จะได้รูปด้านบน และก็กด X เพื่อหุบหน้าต่างลง